สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของโรคลมบ้าหมู: จากพันธุศาสตร์สู่การบาดเจ็บ
โรคลมบ้าหมูหรือ "อาการชัก" เป็นโรคทางระบบประสาทที่มีลักษณะอาการชักซ้ำๆ ซึ่งไม่ได้เกิดจากสภาวะทางการแพทย์ใดๆ โรคลมบ้าหมูเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทของสมอง ทำให้เซลล์ประสาทกลุ่มหนึ่งทำงานหนักเกินไป สาเหตุของโรคลมชักมีความหลากหลายมาก นี่คือการทบทวน
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของโรคลมบ้าหมู
1. ปัจจัยทางพันธุกรรม
ปัจจัยทางพันธุกรรมที่ทำให้เกิดโรคลมบ้าหมูแบ่งออกเป็น 2 ปัจจัย ได้แก่ ภาวะทางพันธุกรรมที่ทำให้สมองบาดเจ็บ เช่น หัวตีบ และประวัติครอบครัว โรคลมบ้าหมูสามารถสืบทอดได้เมื่อพ่อแม่หรือญาติสนิทอื่น ๆ มีประวัติเป็นโรคนี้ นักวิจัยยังพบว่าโรคลมบ้าหมูมีความเกี่ยวข้องกับยีนบางตัวที่มีความไวต่อสภาวะแวดล้อมที่กระตุ้นให้เกิดอาการชักมากขึ้น
2. อาการบาดเจ็บที่ศีรษะ
โรคลมบ้าหมูอาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บอื่นๆ อุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับการกระแทกที่ศีรษะจะขัดขวางการทำงานของสมองและกระตุ้นให้เกิดโรคลมบ้าหมูในภายหลัง
3. ปัญหาสมอง
เนื้องอกในสมองหรือโรคหลอดเลือดสมองอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างของสมองและนำไปสู่โรคลมชักได้ในที่สุด นอกจากนี้ยังมีการศึกษาจำนวนมากที่ระบุว่าโรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุหลักของโรคลมบ้าหมูในผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี
4. พัฒนาการผิดปกติ
โรคลมบ้าหมูบางครั้งเกิดขึ้นในเด็กที่มีพัฒนาการผิดปกติเช่นออทิสติกและโรคประสาทอักเสบ โรคนิวโรไฟโบรมาโตซิสเป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมเมื่อการเจริญเติบโตของเซลล์หยุดชะงัก เพื่อให้เนื้องอกเติบโตในเนื้อเยื่อประสาท
5. การบาดเจ็บก่อนคลอด
การบาดเจ็บก่อนคลอดเป็นภาวะที่ส่งผลให้ทารกได้รับบาดเจ็บก่อนคลอด ก่อนคลอด ทารกมีความเสี่ยงต่อความเสียหายของสมองอย่างมาก
โดยปกติ ภาวะนี้เกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น การติดเชื้อในมารดา การขาดสารอาหาร หรือการขาดออกซิเจนตั้งแต่แรกเกิด ความเสียหายของสมองนี้ในที่สุดทำให้เด็กเป็นโรคลมบ้าหมูเมื่อแรกเกิดหรือสมองพิการ
6. โรคติดเชื้อ
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เอดส์ และการอักเสบของเยื่อบุของสมองที่เกิดจากไวรัสเป็นโรคติดเชื้อที่อาจทำให้เกิดโรคลมชักได้ แม้ว่าจะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดอย่างชัดเจน แต่ภาวะนี้อาจทำให้ผู้ป่วยเป็นโรคลมชักได้
โรคลมบ้าหมูมักส่งผลกระทบต่อเด็กอายุต่ำกว่าสองปีและผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี แม้ว่าจะมีสาเหตุบางประการของโรคลมบ้าหมู แต่ในบางกรณีไม่ทราบสาเหตุและเพิ่งเกิดขึ้น