ป้องกันรังแคไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำด้วย 4 ขั้นตอนง่ายๆ
การมีผมเป็นรังแคนั้นน่ารำคาญจริงๆ คันศีรษะที่รบกวนการปรากฏตัวในที่สาธารณะ ลองมาหลายวิธีแล้ว แต่รังแคยังเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกไหม? ดูวิธีป้องกันรังแคที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไปนี้
มีวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังแคไม่ให้กลับมาอีกหรือไม่?
ผู้ที่มีปัญหารังแคมักเปลี่ยนแชมพูเพื่อให้รังแคหายไปอย่างรวดเร็ว แต่บ่อยครั้งผลลัพธ์เป็นศูนย์ รังแคยังคงมาเยือนสร้างความรำคาญ
วิธีแก้ปัญหาตามขั้นตอนต่อไปนี้สามารถป้องกันรังแคไม่ให้กลับมาเป็นอีกได้
1. ใช้แชมพูขจัดรังแคโดยเฉพาะ
สิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันรังแคคือการเลือกแชมพูที่เหมาะสม ใช้แชมพูขจัดรังแคชนิดพิเศษ เช่น แชมพูที่มีส่วนผสมของ น้ำมันต้นชา เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา Malassezia อันเป็นสาเหตุของรังแค
เมื่อสระผม หลีกเลี่ยงการถูหนังศีรษะแรงเกินไป เพียงนวดบริเวณหนังศีรษะเบาๆ เพื่อไม่ให้หนังศีรษะระคายเคืองและทำให้เกิดรังแค หลังจากนั้นสระผมให้สะอาดเพราะแชมพูที่ตกค้างเป็นอาหารโปรดของเชื้อราที่ทำให้เกิดรังแค
2. หลีกเลี่ยงแชมพูที่มีสารเคมีรุนแรง
สารเคมีที่รุนแรง เช่น สารฟอกขาวและแอลกอฮอล์ ที่พบในแชมพูและสีย้อมผมอาจทำให้ผมแห้งได้ เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งนี้สามารถกัดเซาะแบคทีเรียตามธรรมชาติบนหนังศีรษะซึ่งมีประโยชน์จริง ๆ ในการป้องกันการพัฒนาของเชื้อราที่เป็นสาเหตุของรังแค
หลีกเลี่ยงการใช้เจลแต่งผมและ สเปรย์ฉีดผม ในขณะนี้ ผลิตภัณฑ์ทั้งสองนี้สามารถเพิ่มการผลิตน้ำมันและทำให้หนังศีรษะระคายเคือง
3. หมั่นอาบแดดในตอนเช้า
ไม่ใช่แค่ร่างกายที่แข็งแรง แต่นิสัยการอาบแดดในตอนเช้ายังสามารถป้องกันรังแคได้อีกด้วยนะ อ้างอิงจาก Healthline การศึกษาหลายชิ้นเปิดเผยว่าการได้รับรังสียูวีสามารถช่วยควบคุมรังแคของเส้นผมได้
จำไว้ว่าควรจำกัดเวลาอาบแดดให้เหลือเพียง 10-15 นาทีทุกเช้า เพื่อไม่ให้แสงยูวีบนผิวหนังมากเกินไป เพราะท้ายที่สุดแล้ว การอยู่กลางแดดนานเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนังได้ เพื่อป้องกันสิ่งนี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF เพื่อปกป้องผิวของคุณ
4. จัดการความเครียด
คุณอาจไม่ทราบว่าความเครียดสามารถทำให้เกิดรังแคได้เช่นกัน เหตุผลก็คือ ความเครียดสามารถเพิ่มโอกาสในการป่วยได้ รวมถึงการ "เชิญ" รังแคให้ปรากฏขึ้น
หากคุณรู้สึกเครียดและหดหู่ ให้พยายามสงบสติอารมณ์ด้วยการฝึกหายใจ หายใจเข้าลึก ๆ แล้วหายใจออกช้าๆ ต่อด้วยการทำสมาธิ โยคะ หรือเทคนิคการผ่อนคลายอื่นๆ เพื่อบรรเทาความเครียดของคุณ