ทบทวนสาเหตุของดวงตาเบเลคานคงที่
เมื่อคุณตื่นขึ้นและมองเข้าไปในกระจก จะมีเมือกที่แห้งอยู่ที่มุมดวงตาของคุณอย่างแน่นอน เมือกแห้งนี้เรียกอีกอย่างว่า dengen belek นี่เป็นเรื่องปกติเพราะระหว่างการนอนหลับตาจะไม่กระพริบเพื่อให้เมือกตามธรรมชาติจะสะสมอยู่ที่มุมตา อย่างไรก็ตาม สามารถผลิตเมือกได้มากขึ้นเพื่อให้น้ำมูกไหลตลอดทั้งวัน สาเหตุคืออะไร?
ภาวะต่างๆ ที่ทำให้เกิดแผลที่ตา
เมือกถูกผลิตขึ้นพร้อมกับน้ำตา เมื่อตาถูกรบกวน สามารถสร้างเมือกได้มากกว่าปกติ ทำให้ตาไหล ภาวะบางอย่างที่ทำให้ตาน้ำตาไหล ได้แก่:
1. เยื่อบุตาอักเสบ
เปลือกตาของคุณถูกปกคลุมด้วยเมมเบรนที่เรียกว่าเยื่อบุลูกตา เมมเบรนนี้เต็มไปด้วยหลอดเลือดขนาดเล็กมาก เมื่อสิ่งสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตาและทำให้เยื่อระคายเคือง ตาขาวอาจเปลี่ยนเป็นสีแดง ภาวะนี้เรียกอีกอย่างว่าเยื่อบุตาอักเสบหรือตาสีชมพู
ตาแดงทำให้เมือกสีเขียวออกมามากขึ้นเพื่อให้จามได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณตื่นขึ้น น้ำมูกแห้งอาจทำให้ลืมตาได้ยาก นอกจากเมือกแล้ว ตาจะบวม คัน มีน้ำ และแสบ
2. ตาแห้ง
น้ำตาประกอบด้วยสี่องค์ประกอบ ได้แก่ น้ำ เมือก น้ำมัน และแอนติบอดี หากต่อมน้ำตาถูกรบกวน กระบวนการผลิตน้ำตาสามารถยับยั้งได้ ส่งผลให้ตาแห้งเนื่องจากขาดน้ำ
สภาพตาแห้งนี้กระตุ้นเส้นประสาทให้ผลิต "น้ำตาสำรอง" น่าเสียดายที่น้ำตาเหล่านี้ไม่มีส่วนประกอบเหมือนกันซึ่งเป็นเมือกมากกว่า ภาวะนี้ทำให้ดวงตาระคายเคือง เหนื่อยเร็ว และไวต่อแสง และมีอาการคล้ายตาเป็นประกาย
3. ท่อน้ำตาอุดตัน
น้ำตาที่เกิดจากต่อมน้ำตาจะไหลผ่านท่อน้ำตา ช่องนี้สามารถเชื่อมต่อกับบริเวณจมูกและลำคอได้
หากท่อเหล่านี้อุดตันเนื่องจากการติดเชื้อ การบาดเจ็บ หรือความเสียหาย น้ำตาจะไม่สามารถไหลได้ ภาวะนี้อาจทำให้เกิดอาการบวมที่มุมตา เปลือกตามีรอยย่น ตาแดงและมีเสมหะ
4. แผลที่กระจกตา
กระจกตาเป็นชั้นใสที่เรียงตัวกับรูม่านตาและม่านตา แม้ว่าการติดเชื้อแบคทีเรียและอาการตาแห้งเรื้อรังจะพบได้ยาก แต่ก็สามารถทำให้เกิดแผลที่กระจกตาได้ แผลเป็นแผลเปื่อยที่รักษายาก
อาการที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ ตาแดงพร้อมกับมีน้ำมูกหรือหนอง เปลือกตาบวมและเจ็บปวด ตาพร่ามัว และปวดเมื่อมองแสงจ้า